×
Menu
หน้าแรก
ธุรกิจ
เอสเอ็มอี
สังคม
ไฮไลท์
งานดี
เศรษฐกิจ
สุขภาพ
ท่องเที่ยว
โปรโมชั่น
การศึกษา
เทคโนโลยี
ไลฟ์สไตล์
231
อ่าน
กาแฟฟ้าห่มปก มรดกคู่ผืนป่า โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ สร้างรายได้เกษตรกรทะลุหลักล้าน/ปี
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
เปิดเผยว่า โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่
ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2544 เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็
จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการช่วยเหลือราษฎรให้มีคุ
ณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี
ขึ้น แก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกิ
น การบุกรุกทำลายป่าพื้นที่ต้นน้ำ
ลำธารเพื่อปลูกพืชเสพติดการเกิ
ดไฟป่าและการล่าสัตว์
ตามแนวทางพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่า”
กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมเป็
นคณะทำงานวิเคราะห์พื้นที่เป้
าหมายและร่วมกำหนดแนวทางการพั
ฒนาเพื่อแก้ปัญหาตามภารกิ
จของหน่วยงานจากการวิเคราะห์พื้
นที่พบว่าเกษตรกรมีรายได้ไม่เพี
ยงพอต่อการดำรงชีวิต และขาดพืชที่มีศักยภาพที่
เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
จึงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจั
ยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1 ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรปลู
กกาแฟอะราบิกาพันธุ์เชียงใหม่ 80 ซึ่งเป็นพันธุ์ของกรมวิ
ชาการเกษตรมีลักษณะเด่นให้ผลผลิ
ตสูงและต้านทานโรคราสนิมร่วมกั
บป่าไม้ธรรมชาติยั่งยืน
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชี
ยงใหม่ได้จัดฝึกอบรมการผลิ
ตกาแฟอะราบิกาให้เกษตรกรพร้อมกั
บจัดทำแปลงต้นแบบเทคโนโลยี
การผลิตกาแฟอะราบิกาพันธุ์เชี
ยงใหม่ 80 พื้นที่ 1 ไร่ ขยายผลสู่แปลงกาแฟเกษตรกรจำนวน 15 ครัวเรือน โดยกระจายพันธุ์กาแฟอะราบิกาพั
นธุ์เชียงใหม่ 80 สู่เกษตรกรในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 88,000 ต้น
ในปี 2560 ได้ผลผลิตกาแฟกะลาปริมาณ 8.4 ตัน และผลผลิตเริ่มคงที่ในปี 2565 ปริมาณ 8.8 ตัน เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่
ายกาแฟ 1.3 ล้านบาท/ปี
คิดเป็น 86,160บาท/ครัวเรือน/ปี ซึ่งเมื่อเทียบในปี 2560 เริ่มโครงการฯ ช่วงแรกเกษตรกรมีรายได้เพียง 60,069 บาท/ครัวเรือน/ปีเท่านั้น
หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิ
ตกาแฟ 1.4 เท่าจากการพัฒนาการผลิตกาแฟอย่
างถูกต้องและมีคุณภาพจากการใช้
พันธุ์และเทคโนโลยีของกรมวิ
ชาการเกษตร ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรทุกครัวเรื
อนมีการปลูกกาแฟเป็นแหล่งรายได้
หลัก
นอกจากนี้
ได้มีการขยายผลต้
นกาแฟพันธุ์ดีและเทคโนโลยี
การผลิตกาแฟของกรมวิ
ชาการเกษตรโดยต่อยอดสู่ชุ
มชนใกล้เคียง
ได้แก่
ชุมชนบ้านปู่หมื่นตำบลแม่สาว
อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 91 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกกาแฟ 100 ไร่ สร้างรายได้สู่ชุมชนปีละ 3 ล้านบาท และชุมชนบ้านหลายอาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 81 ครัวเรือนพื้นที่ปลูก 200 ไร่
สร้างรายได้สู่ชุมชนปีละ 6 ล้านบาท
จากราคากาแฟกะลาไม่ต่ำ
กว่า 200 บาทต่อกิโลกรัมในปี 2566 ซึ่งเป็นราคาสูงที่สุดและปริ
มาณผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้
องการของผู้บริโภค
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
กล่าวว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชี
ยงใหม่ ได้เข้าไปให้
คำแนะนำเกษตรกรในพื้นที่ปลู
กกาแฟพันธุ์เชียงใหม่ 80 และใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำของกรมวิ
ชาการเกษตร ตัดแต่งกิ่งที่แห้งไม่ให้ผลผลิ
ตออกตัดฟื้นต้นทรงพุ่
มกาแฟออกหมดหรือเกือบหมดทั้
งทรงพุ่มตัดโคนต้นให้มีระดับสู
งจากผิวดิน 30 - 50 เซนติเมตร หลังจากแตกกิ่งใหม่เลือกกิ่งที่
สมบูรณ์แข็งแรงไว้ประมาณ 2 – 3 กิ่ง พร้อมวางกับดักและสารล่
อมอดเจาะผลกาแฟ (เมทิลแอลกอฮอล์ : เอทิลแอลกอฮอล์ อัตราส่วน 1 : 1 อัตรา 5 - 10 จุดต่อไร่) และเติมสารล่อทุก 2 สัปดาห์ หากพบหนอนเจาะกิ่งกาแฟ/
หนอนกาแฟสีแดง ให้ตัดกิ่งและลำต้
นออกไปเผาทำลายนอกแปลง ส่วนโรคผลเน่าจากเชื้
อแอนแทรคโนส ให้เก็บผลและตัดแต่งกิ่ง ใบ ที่เป็นโรคไปเผานอกแปลงปลูก
หลังเก็บเกี่ยวผลกาแฟตัดแต่งกิ่
งและให้ปุ๋ยบำรุงต้นเก็บเกี่
ยวกาแฟเฉพาะผลสุก 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปที่มีสี
แดงและสีเหลือง-เหลืองเข้ม โดยเก็บทีละข้อไม่เก็บแบบรูดสร้
างโรงเรื
อนตากกาแฟและตากกาแฟกะลาบนแคร่
ยกสูงมุงหลังคาพลาสติ
กใสไกลจากถนน จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้
โครง
การ “กาแฟฟ้าห่มปก มรดกคู่ผืนป่า โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่
ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่” ได้รับรางวัลโครงการพิเศษดีเด่น ประจำปี 2566 ระดับดีมาก จากกรมวิชาการเกษตร
แท็ก :
กรมวิชาการเกษตร
กาแฟฟ้าห่มปก