โดย : ไข่เจียวฟู
ด้วยเศรษฐกิจปัจจุบันที่กำลังเข้าขั้นวิกฤตเต็มที ข้าวของแพงขณะที่เงินเดือนยังเท่าเดิม ทำให้ประชาชนรัดเข็มขัดกัน เต็มที่ การกระตุ้นเศรษฐกิจจึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนกำลังเรียกร้องจากรัฐบาล นั้นจึงเป็นจุดกำเนิดของโครงการ “คนละครึ่ง”
ซึ่งนโยบาย “คนละครึ่ง” ถือเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ได้กระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ด้วยแนวคิดให้ประชาชนใช้จ่ายเหมือนจ่ายแค่ครึ่งเดียว ทำให้ประชาชนรู้สึกได้ส่วนลดในการซื้อ เป็นการกระตุ้นการซื้อขาย ซึ่งหากมองหลักจิตวิทยาเศรษฐศาสตร์ ถือได้ผลเกินคาด โดยมีดังนี้
1.ผ่อนการรัดเข็มขัด
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะโครงการคนละครึ่ง ทำให้เวลาคนซื้อสินค้า รู้สึกจ่ายน้อยลง เนื่องจากรัฐช่วยออกครึ่งหนึ่ง เป็นการเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้แม้บางสินค้าถึงจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ด้วยโครงการที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่า ทำให้รู้สึกมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น และลดความกังวลในการใช้จ่ายไปในตัว

2.จ่ายน้อยลง ซื้อมากขึ้น?
อีกหนึ่งจิตวิทยาเศรษฐศาสตร์ของคนละครึ่งในการผลักดันให้คนมีการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องด้วยรัฐบาลช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง ทำให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายดูลดลง จนเกิดความรู้สึกว่า “ยอดใช้จ่ายไม่สูงเท่าเดิม แต่ได้ของเท่าเดิม” ทำให้ตนรู้สึกยังมีกำลังซื้อได้อีก เกิดเป็นโอกาสให้ประชาชนได้ลองสินค้าใหม่ ๆ ร้านใหม่ ๆ มากขึ้น เป็นการกระจายรายได้ให้กับร้านค้าต่าง ๆ ไปอีกหนึ่งทางด้วย

3.ไม่บังคับ แต่ใช้ความ “เสียดาย” เป็นแรงผลักดัน
โครงการนี้แม้ไม่ใช่วิธีบังคับให้เข้าร่วมโครงการโดยตรง แต่สร้างบรรยากาศการจับจ่ายผ่านคนละครึ่ง ให้ค่าใช้จ่ายดูเบาลง ทำให้มีคนตัดสินใจจะซื้อขายมากขึ้น ส่งผลร้านค้าต่าง ๆ ได้รายได้เพิ่มขึ้น บรรยากาศการจับจ่ายก็คึกคัก ทำให้คนที่ไม่เข้าร่วมโครงการ อาจเกิดความรู้สึก “เสียดาย”

โดยฝั่งของลูกค้าจะรู้สึกว่า เสียดายที่ไม่เข้าโครงการที่ทำให้ใช้จ่ายได้ถูกลง ขณะที่ร้านค้าจะรู้สึกเสียดายในการสร้างรายได้ จนกลายเป็นแรงกระตุ้น ให้เข้าร่วมโครงการหากมีในรอบถัดไป
กล่าวได้ว่าโครงการคนละครึ่ง ถือเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รับความสนใจจากประชาชน เพราะด้วยวิธีใช้งบประมาณเป็นรูปธรรม ทำให้ประชาชนสัมผัสได้โดยตรงว่าได้สิทธิพิเศษจริง ๆ จากรัฐบาล จนเกิดเป็นกระตุ้นการซื้อขายในระดับฐานราก
โดยข้อมูลจาก กระทรวงการคลังและสำนักเศรษฐกิจการคลัง ชี้ว่า โครงการคนละครึ่งทั้ง 5 เฟสที่ผ่านมา ทำเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมกันกว่า 4.2 แสนล้านบาท มีประชาชน 20 กว่าล้านคน เข้าร่วมโครงการ

ถือเป็นโครงการที่ได้กระแสตอบรับดี และสร้างเม็ดเงินให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้ค่อนข้างชัดเจน นอกจากนี้ ทางรัฐบาล ยังมีแนวโน้มจะเดินหน้าคนละครึ่งพลัสเฟส 2 หลังจากนี้ก็ต้องมาดูกันว่า ผลของโครงการนี้ ได้สร้างเงินสะพัดให้เศรษฐกิจไทยได้ตามเป้าหรือไม่
แท็ก :
จิตวิทยาเศรษฐศาสตร์
คนละครึ่งพลัส