ชานมไข่มุก เมนูยอดฮิตที่ครองใจใครหลายๆ คน มีต้นกำเนิดความอร่อยมาจากไต้หวันในช่วงปี ค.ศ. 1980 จนกระทั่งในปี 1990 ชานมไข่มุกได้รับความนิยมจากผู้คนมากมายทั้งในไต้หวันเอง และต่างประเทศ หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย หากพูดถึง “ชานมไข่มุก” คนไทยส่วนมากก็จะคิดถึงความหอมหวานของชานมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และไข่มุกดำเม็ดหนึบ รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว ในแต่ละภาคของไต้หวัน เมนูชานมไข่มุกมีความแตกต่างทั้งรสชาติและรสสัมผัสที่ต่างกัน โดยบทความนี้ การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักและดื่มด่ำกับรสชาติความอร่อยกลมกล่อมของเมนูยอดฮิตชานมไข่มุกจากประเทศต้นกำเนิดให้ครบทุกภูมิภาค พร้อมแนะนำร้านที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยว
พื้นที่ภาคเหนือในไต้หวันถูกขนานนามว่าเป็นโซนที่มีการรังสรรค์เมนูชานมไข่มุกรสชาติใหม่ๆ ออกมาให้เหล่าบรรดานักชิมได้ลิ้มลองอยู่ตลอด เรียกได้ว่าถ้าเป็นคนที่ชอบความแปลกใหม่ ต้องมาลองเปิดประสบการณ์ตามรอยความอร่อยนี้ไปพร้อมกันกับพิกัดแรก ร้าน Guiji (龜記茗品) เป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยม เนื่องด้วยทางร้านจะเลือกใช้ชาอู่หลงเป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้ชามีความหอมและเข้มข้น และอีกไฮไลท์ คือ ไข่มุกทองคำสีเหลืองทองอร่าม ที่เมื่อเคี้ยวเม็ดไข่มุกจะได้รสสัมผัสถึงความหวานและกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง สร้างความสดชื่น ต่อด้วยร้าน 50 Lan (50嵐) ร้านนี้มีความโดดเด่นตรงที่สามารถเลือกขนาดของไข่มุกได้ หากชอบความเหนียวหนึบมากเป็นพิเศษให้สั่ง “ไข่มุกเม็ดใหญ่” หรือหากใครชอบให้ไข่มุกผสมกับชานมรวมอยู่ในคำเดียวให้สั่ง “ไข่มุกเม็ดเล็ก” แต่ถ้าเป็นคนที่หลงใหลรสชาติของชานม แนะนำร้าน JenJuDan (珍煮丹) เพราะมีชานมให้เลือกหลายแบบมาก ๆ ที่พิเศษที่สุด คือ ร้านนี้มีชาไทยใส่ไข่มุก เมนูยอดฮิตในหมู่คนไต้หวันด้วย ที่สำคัญร้านนี้ได้คิดค้นไข่มุกที่เคี่ยวด้วยน้ำตาลทรายแดงขนาดเม็ด 0.85 ซม. ที่เหมาะกับการเคี้ยวที่สุด
ไปต่อกันที่ภาคกลางของไต้หวัน ชานมไข่มุกของที่นี่จะให้ความสำคัญกับการชงชา โดยชาที่นำมาใช้นั้นคัดสรรแต่ใบชาที่มีคุณภาพดี เพื่อให้ชาที่ชงมีกลิ่นหอมและรสชาติที่หวานติดปลายลิ้น ดื่มแล้วคล่องคอ โดยพิกัดที่จะแนะนำสำหรับโซนภาคกลางคือ ร้าน Chun Shui Tang (春水堂) หนึ่งในร้านที่คาดว่าเป็นร้านเริ่มต้นคิดค้นเมนูชานมไข่มุกไต้หวัน ซึ่งชานมไข่มุกของทางร้านจะมีรสชาติเข้มข้น หวานดื่มง่าย และไฮไลท์อีกอย่างของทางร้าน คือ การทานชาไข่มุกพร้อมน้ำแข็งบด ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้กินชานมไข่มุกปั่น เมื่อดูดแล้วรู้สึกถึงความสดชื่น นอกจากนั้นยังมีร้าน TenRen’s Tea (天仁茗茶) ถึงแม้จะไม่ได้เป็นต้นตำรับของชานมไข่มุก แต่เรียกได้ว่าเป็นร้านชาที่เปิดยาวนานที่สุดในไต้หวัน และมีความพิถีพิถันในการเลือกชาที่มีคุณภาพ ทำให้ได้เครื่องดื่มชานมที่มีรสชาติเข้มข้นและกลมกล่อม
ปิดท้ายด้วยภาคใต้กับ ร้าน HanLin Tea Room (翰林茶館) เป็นอีกหนึ่งร้านที่คาดว่าจะเป็นร้านแรกๆ ที่คิดค้นเมนูชานมไข่มุกของไต้หวัน ก่อนจะกลายเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตไปทั่วโลก และรสชาติชานมไข่มุกจะเป็นรสชาติแบบดั้งเดิม ที่ชากับนมผสมกันได้อย่างลงตัว เมื่อดื่มเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงกลิ่มหอมของชาและความหวานของนม และไข่มุกขาวใสแบบดั้งเดิม แตกต่างจากร้านอื่นๆ ที่เมื่อเคี้ยวไปจะมีความหนึบมากกว่าไข่มุกทั่วไป หรือถ้าเลือกไม่ได้ว่าจะทานไข่มุกแบบไหนดี สามารถเลือกทานไข่มุกทูโทน (Two-tone boba 黑白雙珠) ซึ่งเป็น Signature ของทางร้าน ที่มีไข่มุกสีดำและสีขาวในแก้วเดียว โดยไข่มุกจะมีความเหนียวหนึบ และรสชาติที่กลมกล่อมตามแบบฉบับของไต้หวันแท้ๆ แน่นอน
สำหรับใครที่วางแผนการเดินทางไปเที่ยวไต้หวัน อย่าลืมตามรอยไปลองเปิดประสบการณ์ สัมผัสรสชาติของเมนูชานมไข่มุกทั้ง 3 ภาคที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างอย่างลงตัวกันได้ตามพิกัด ที่แนะนำไว้ข้างต้น ผู้สนใจสามารถติดตามอัปเดตข่าวสารความเคลื่อนไหวของกิจกรรม แหล่งท่องเที่ยวของไต้หวันที่ห้ามพลาดได้จากสำนักงานท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ผ่านทาง https://www.taiwantourism.org/th/ หรือ ช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : Taiwan Tourism Bureau
แท็ก :
ชานมไข่มุก
ไต้หวัน