ขึ้นชื่อว่ายนตรกรรมอิตาเลียน ดีไซน์และความแรงอยู่ในระดับท็อป ยิ่งผสานด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนใหม่ๆ นับเป็นกำไรที่สาวกรถแรงไม่ควรพลาด และงานนี้ มาเซราติ ประเทศไทย ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ชวนสัมผัสเอสยูวีหรู มาเซราติ ‘เกรคาเล่ จีที’ (Grecale GT) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไมลด์-ไฮบริดขนานแท้ ผสานความสง่างาม, สมรรถนะ, นวัตกรรมล้ำสมัย, ศักยภาพบนเส้นทางออฟ-โรด และสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ เช่นเดียวกับ อีก 2 รุ่นในตระกูล ‘กิบลี ไฮบริด’ (Ghibli Hybrid) และ ‘เลวานเต้ ไฮบริด’ (Levante Hybrid) ที่มีรูปลักษณ์และสมรรถนะการขับเคลื่อน โดดเด่นโดนใจสาวกรถยนต์สายพันธุ์อิตาเลียน ทั้งหมดนี้จัดแสดงให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่บูธ มาเซราติ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ ที่ แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ปิยะเทพ ศิวากาศ, ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย เผยว่า “ปัจจุบัน มาเซราติ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของระบบไฮบริด ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อการตอบสนองที่ฉับไว สร้างประสบการณ์ขับที่สนุกเร้าใจในสไตล์รถสปอร์ตอิตาเลียนพันธุ์แท้ โดยงานนี้เราจัดแสดงยนตรกรรมไฮไลท์ 3 รุ่น ที่มาพร้อมขุมพลังดังกล่าว นำโดย ‘เกรคาเล่ จีที’ ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกภายในงาน สมทบด้วย ‘กิบลี่ ไฮบริด’ และ ‘เลวานเต้ ไฮบริด’ โดย มาเซราติ ทั้ง 3 รุ่น มีเอกลักษณ์การดีไซน์ที่โดดเด่นภายใต้แนวคิด ‘Master of Italian Audacity’ หรือ ความกล้าที่จะแตกต่างในสไตล์อิตาเลียน ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า มาเซราติ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”
แฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามความเคลื่อนไหวรถยนต์ มาเซราติ ล้วนทราบดีว่าเป็นยนตรกรรมที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและสุนทรีภาพในการขับขี่ ควบคู่ไปกับการใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการคิดค้นเทคโนโลยีไมลด์-ไฮบริดที่ได้รับการพัฒนามาจากสนามแข่งฟอร์มูลาวัน และนำมาใช้กับยนตรกรรมหลายรุ่น เป็นเสมือนสะพานเชื่อมสู่โลกของยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ที่จะประเดิมด้วยการเปิดตัว มาเซราติ ‘กรันทูริสโม โฟลกอเร’ (GranTurismo Folgore) ช่วงปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นยนตรกรรม จีทีที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ มาเซราติ
ส่องดีเอ็นเอ มาเซราติ ‘เกรคาเล่ จีที’ สะท้อนภาพลักษณ์การออกแบบของ มาเซราติ ยุคใหม่อย่างชัดเจน ตัวถังสไตล์คูเป้ เส้นสายโค้งมน กระจังหน้าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมไฟท้ายบูเมอแรงที่ได้แรงบันดาลใจจาก มาเซราติ Giugiaro 3200 GT ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไมลด์-ไฮบริด เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซูเปอร์ชาร์จ (e-Booster) มีกำลังสูงถึง 300 แรงม้า (hp) แรงบิด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. ขณะที่ห้องโดยสารก็เปี่ยมความหรูหราและอเนกประสงค์ ด้วยพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน
คุณสมบัติอันโดดเด่นนี้ ยังครอบคลุมไปถึงอีก 2 รุ่นในตระกูล อย่าง มาเซราติ ‘กิบลี ไฮบริด’สุดยอดยนตรกรรม แกรนด์ ทัวร์ริง รูปลักษณ์ดูแตกต่างอย่างโดดเด่น สะท้อนตัวตนของผู้ครอบครอง เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะเพื่อการขับทางไกล โดยใช้ความเร็วสูง แต่ยังคงความสะดวกสบายไว้อย่างครบครัน และเป็นผลงานแรกของเครื่องยนต์ยุคอนาคต ที่ผสมผสานสมรรถนะ, ความประหยัด และสุนทรียะแห่งการขับได้อย่างลงตัว ขณะที่เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูล ‘เลวานเต้ ไฮบริด’ ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไมลด์-ไฮบริด ก็มาพร้อมความแรง, รักษ์โลก และใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า เป็นเสมือนก้าวที่สองของการเข้าสู่ยุคแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าในอนาคตของ มาเซราติ ที่ทรงประสิทธิภาพรอบด้าน พร้อมสุ้มเสียงกระหึ่มเร้าใจ อันเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้ ทำให้เครื่องยนต์บล็อกนี้ ตอบสนองดีตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ต่างจากเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ แต่ให้ความประหยัดสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
หรู แรง สอดรับกระแสรักษ์โลก นับเป็นโจทย์สำคัญสำหรับการออกแบบยนตกรรมยุคใหม่ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนชัดเจนอยู่ใน มาเซราติ รถยนต์สายพันธุ์อิตาเลียน รุ่น เกรคาเล่ จีที, กิบลี ไฮบริด และ เลวานเต้ ไฮบริด ที่รังสรรค์อย่างตั้งใจ
มาเซราติ เกรคาเล่ จีที ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท*
มาเซราติ กิบลี่ ไฮบริด ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท*
มาเซราติ เลวานเต้ ไฮบริด ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท*
สัมผัสเทคโนโลยีไมลด์-ไฮบริดกับยนตรกรรมอิตาเลียนพันธุ์แท้ ได้ที่บูธ มาเซราติ ประเทศไทย (B09) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ณ แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
แท็ก :
เกรคาเล่ จีที
ไมลด์-ไฮบริด
ยนตรกรรมอิตาเลียน